งานตกแต่งภายในและก่อสร้างที่มีการปูกระเบิ้องเซรามิกที่พิ้นหรือผนังไม่ถูกวิธิ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปูกระเบื้อง จะทำให้เกิดได้ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การปูกระเบื้องไม่ได้แนวหรือไม่ได้ระดับ และอาจทำให้เกิดปัญหาได้ในภายหลัง เช่น กระเบื้องหลุดล่อน แตกร้าว
ต่อไปนี้คือคำแนะนำเมื่อต้องการปูกระเบื้องเซรามิกที่พื้นและผนัง วิธีการปูกระเบื้องที่ถูกต้อง
เตรียมพื้นที่ให้สะอาด ไม่มีเศษหิน ตะปู คราบกาว คราบสี เศษขยะ ก่อนการปูพื้นกรุผนัง เพื่อลดการเกิดโพรงอากาศระหว่างพื้นที่กับกระเบื้อง และทำให้ปูนกาวที่ใช้ปูกรุกระเบื้องทำการยึดเกาะกระเบื้องกับพื้นและผนังได้อย่างเต็มที่
ปรับระดับพื้นและผนังให้เรียบเสมอกัน ไม่มีหลุมบ่อ เพื่อลดช่องว่างและโพรงอากาศระหว่างกระเบื้องเซรามิกกับพื้นผนัง
ทากันซึมหรือทำกันซึม และอาจปูแผ่นพลาสติกกันซึม ก่อนการปูกรุกระเบื้อง ถ้าพื้นที่มีความชื้น
ควรปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ไม่ปูกระเบื้องด้วยปูนซีเมนต์แบบซาลาเปา เนื่องจากปูนที่ใช้ยึดกระเบื้องเข้ากับพื้นจะไม่เต็มที่พื้นที่ด้านหลังแผ่นกระเบื้องกับพื้น ทำให้เกิดโพรงอากาศ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดการแตกร้าว หรือเกิดการหลุดล่อนของแผ่นกระเบื้องเซรามิกได้ในภายหลัง
ใช้อุปกรณ์ปรับระดับจัดแนวกระเบิ้องสำเร็จรูปช่วยในการปูกระเบื้อง เพื่อให้กระเบื้องได้แนวตรงกันและได้ระดับสมำ่เสมอตามต้องการ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวยังทำให้ร่องยาแนวมีขนาดเท่ากันตลอดแนวอีกด้วย
เว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร กรณีเป็นกระเบื้องชนิดตัดขอบเมื่อต้องการเว้นร่องยาแนวเพียง 1 มิลลิเมตร หรือปูชน ปัญหาที่มักเกิดขึ้น คือ ที่มุมกระเบื้อง 4 มุม มักจะไม่เรียบเสมอกับมุมของกระเบื้องที่มาชน เนื่องจากกระเบื้องโดยส่วนใหญ่มักมีมุมทั้ง 4 ทีหลุบลง เนื่องจากกระบวนการผลิตจากโรงงานผลิตกระเบื้อง
การปูกระเบื้องแบบลายก่ออิฐ มักมีปัญหาที่มุมกระเบื้อง มักจะไม่เรียบเสมอกับขอบด้านข้างของกระเบื้องที่มาชน เนื่องจากกระเบื้องโดยส่วนใหญ่มักมีมุมทั้ง 4 ทีหลุบลง เนื่องจากกระบวนการผลิตจากโรงงานผลิตกระเบื้อง เช่นกัน
กระเบื้องเซรามิกสำหรับปูพื้น สามารถใช้กรุผนังได้ แต่กระเบื้องที่ผลิตมาสำหรับกรุผนังโดยเฉพาะ ไม่สามารถนำมาปูพื้นได้ เนื่องจากมีความแข็งแรงของผิวและแผ่นที่น้อยกว่า
ใช้เครื่องวัดแนวระดับเลเซอร์ช่วยหาระดับในการปูกรุผนัง
ในการผสมปูนกาวซีเมนต์สำหรับปูกระเบื้อง ต้องใช้เครื่องผสมปูนไฟฟ้าแบบมือถือในการผสม เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดีมีประสิทธิภาพ ซึ่งการผสมด้วยมือไม่สามารถทำได้
การปาดปูนกาวซีเมนต์ก่อนการติดแผ่นกระเบื้อง ให้ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวให้เรียบเต็มพื้นที่เพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง จากนั้นให้ใช้ด้านหวีของเกรียงปาดเป็นร่องให้ทั่ว โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง จากนั้นใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชย ความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้อง โดยให้ปูนกาวอยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศ ทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตกล่อนได้ในภายหลัง
ความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบนพื้นผิวควรจะอยู่ระหว่าง 2 - 10 มม.
เลือกขนาดฟันของเกรียงหวีให้ถูกกับขนาดของกระเบื้อง โดยกระเบื้องขนาดตั้งแต่ 40x40 เซนติเมตรขึ้นไปให้ใช้เกรียงหวีที่มีขนาดฟัน 10x10 มิลลิเมตร สำหรับกระเบื้องที่เล็กกว่าให้ใช้ขนาดฟัน 6x6 มิลลิเมตร และสำหรับการปูกระเบื้องที่มีขนาดเล็กมากๆแค่ 5x5 เซนติเมตร อาจใช้เกรียงหวีที่มีขนาดฟัน 3x3 มิลลิเมตร
การติดกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ ให้สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
การจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการ ไม่ควรใช้เวลาเกิน 15 นาที หลังจากนั้นไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีก เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์
ใช้เกรียงปาดยาแนว ช่วยในการกดยาแนวให้ไหลไปตามร่องกระเบื้องที่เว้นไว้ แทนการใช้นิ้วหรือผ้ารูด จากนั้นโดยทั่วไปจะทิ้งไว้ให้ยาแนวบ่มตัว 30 นาที แล้วจึงใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดคราบยาแนวที่เปิ้อนอยู่ลนผิวกระเบื้อง
เมื่อต้องเจาะรูที่กระเบื้องเซรามิก ควรใช้สว่านกับดอกเจาะที่ผลิตขึ้นมาสำหรับเจาะกระเบื้องเท่านั้น
การตัดกระเบื้องเซรามิก ควรใช้เครื่องตัดกระเบื้องที่ผลิดขึ้นมาเพื่องานตัดกระเบื้องโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ลดการเสียของวัสดุ และลดความคมที่ขอบของกระเบื้องที่โดนตัด
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 48 ชั่วโมง แล้วจึงยาแนวกระเบื้อง
ไม่ควรใช้ปูกระเบื้องบน พลาสติก โลหะ กระจก ไม้ ยาง
"อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า"
พุทธวจน